
ทุกวันนี้ โพรไบโอติก (Probiotics) กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์เสริมสุขภาพยอดนิยมที่หลายคนเลือกดื่มหรือรับประทานทุกวัน
แต่เคยสงสัยไหมว่า “โพรไบโอติกต้องมีจำนวนเท่าไหร่ถึงจะเห็นผลจริง?”เวลาคุณพลิกฉลากผลิตภัณฑ์ จะเห็นตัวเลขตามหลังคำว่า CFU เช่น 1 × 10⁹ CFU หรือ 50 × 10⁹ CFU แล้วตัวเลขนี้หมายถึงอะไร? และต้องมากหรือน้อยแค่ไหนถึงจะดีต่อร่างกาย?
มาทำความเข้าใจแบบง่าย ๆ กันครับ 👇
📊 CFU คืออะไร?
CFU (Colony Forming Unit) คือหน่วยวัด “จำนวนจุลินทรีย์มีชีวิต” ที่ยังสามารถแบ่งตัวและสร้างอาณานิคมได้จริงในสภาวะเหมาะสม
พูดง่าย ๆ คือ มันวัดเฉพาะ “จุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตและพร้อมทำงาน” ไม่ใช่จำนวนทั้งหมดที่ใส่ลงไปตอนผลิต
ดังนั้น ถ้าโพรไบโอติกหนึ่งขวดระบุว่า 10⁹ CFU หมายความว่า มีจุลินทรีย์มีชีวิตอยู่ประมาณ 1 พันล้านตัวต่อหนึ่งหน่วยบริโภค
📖 ปริมาณที่งานวิจัยแนะนำ
นักวิจัยทั่วโลกได้ศึกษาผลของโพรไบโอติกต่อสุขภาพมาหลายสิบปี และพบว่า “ปริมาณ” มีผลต่อประสิทธิภาพจริง แต่ต้องอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับแต่ละสายพันธุ์

💡 ข้อค้นพบหลักจากงานวิจัย
- โพรไบโอติกทั่วไปเพื่อสุขภาพลำไส้และภูมิคุ้มกัน
→ ควรได้รับ อย่างน้อย 1 พันล้านตัว (10⁹ CFU) ต่อวัน - เพื่อบรรเทาอาการเฉพาะหรือโรคบางชนิด
→ ใช้ตั้งแต่ 10⁹ – 10¹¹ CFU ต่อวัน ขึ้นอยู่กับชนิดของจุลินทรีย์และจุดประสงค์
เช่น- Lactobacillus rhamnosus GG → เสริมภูมิคุ้มกันและลดการติดเชื้อในทางเดินหายใจ
- Bifidobacterium lactis → ปรับสมดุลการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก
- Lactobacillus reuteri → ช่วยลดอาการโคลิก (Colic) ในทารก
- Lactobacillus plantarum → ลดอาการลำไส้แปรปรวน (IBS)
- Bacillus coagulans → ทนต่อกรดในกระเพาะ ช่วยสร้างสมดุลระยะยาว
ตัวเลข CFU จึงเป็น “ตัวบ่งชี้ระดับหนึ่ง” แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะสายพันธุ์ (Strain) และรูปแบบของผลิตภัณฑ์ก็มีผลต่อประสิทธิภาพเช่นกัน
⚠️ สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับ CFU
- CFU ยิ่งสูง ยิ่งดี? ไม่เสมอไป!
แม้บางผลิตภัณฑ์โฆษณาว่ามี 50 หรือ 100 พันล้าน CFU ต่อซอง แต่ถ้าสายพันธุ์ไม่ได้รับการพิสูจน์ทางคลินิก ก็อาจไม่มีผลชัดเจน
งานวิจัยชี้ว่า “ปริมาณที่เหมาะสมของแต่ละสายพันธุ์” สำคัญกว่าการยัดตัวเลขสูง ๆ ลงไป
- โพรไบโอติกทุกตัวมีชีวิตอยู่ถึงตอนกินหรือไม่?
ไม่แน่เสมอไป!
บางผลิตภัณฑ์อาจระบุ CFU ตอน “ผลิต” แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความร้อน แสง หรือความชื้น สามารถทำให้จุลินทรีย์ตายลงได้ ครึ่งหนึ่งหรือมากกว่านั้น
ดังนั้นควรเลือกแบรนด์ที่มีระบบ “การควบคุมอุณหภูมิและบรรจุภัณฑ์กันอากาศ” หรือเลือกแบบที่ยังคงความสดจริง เช่นโพรไบโอติกสดแบบน้ำ
- CFU ไม่ได้บอกประสิทธิภาพจริงเสมอไป
บางครั้งแม้ CFU ไม่สูงมาก แต่ถ้าจุลินทรีย์เป็นสายพันธุ์ทนกรดและเกาะผนังลำไส้ได้ดี ก็อาจให้ผลสุขภาพดีกว่าแบบที่มีจำนวนสูงแต่ตายก่อนถึงลำไส้
💬 แล้วควรเลือกโพรไบโอติกแบบไหนดี?
✅ สำหรับการดูแลทั่วไป
ผลิตภัณฑ์ที่มีอย่างน้อย 10⁹ CFU ต่อวัน ถือว่าเพียงพอสำหรับคนที่ต้องการบำรุงลำไส้ ลดท้องอืด และเสริมภูมิคุ้มกัน
✅ สำหรับอาการเฉพาะทาง
อาจต้องใช้ในช่วง 10¹⁰ – 10¹¹ CFU ต่อวัน
แต่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือดูข้อมูลจากงานวิจัยของสายพันธุ์นั้น ๆ
✅ อย่าลืมดู “รายละเอียดบนฉลาก”
- ระบุชื่อสายพันธุ์เต็ม (เช่น Lactobacillus rhamnosus GG ไม่ใช่แค่ “Lactobacillus sp.”)
- ระบุจำนวน CFU ต่อหน่วยบริโภค
- มีข้อมูลการเก็บรักษาและวันหมดอายุชัดเจน

🌡️ การเก็บรักษาก็สำคัญไม่แพ้ตัวเลข CFU
แม้ผลิตภัณฑ์จะเริ่มต้นด้วย 10⁹ CFU แต่หากเก็บไว้ในที่ร้อนหรือโดนแสงแดด ตัวเลขนั้นอาจเหลือเพียง 10⁷ ในไม่กี่เดือน
ควรเก็บในที่แห้ง เย็น และพ้นแสง หรือแช่ตู้เย็นหากฉลากระบุ
ผลิตภัณฑ์โพรไบโอติกสดแบบน้ำ เช่น CAVE PRO จะผ่านการควบคุมอุณหภูมิและค่า pH อย่างเข้มงวด เพื่อคงจำนวนจุลินทรีย์มีชีวิตได้จริง
📈 ตัวเลข CFU ไม่ใช่คำตอบเดียว
เราควรดู 3 องค์ประกอบหลักร่วมกันเสมอ
- สายพันธุ์ที่มีงานวิจัยรองรับ
- ปริมาณ CFU ที่เหมาะสมกับจุดประสงค์
- รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้จุลินทรีย์ยังมีชีวิตถึงลำไส้
🍹 CAVE PRO โพรไบโอติกสดแบบน้ำ — สด มีชีวิต พร้อมทำงานทันที
หากคุณไม่อยากปวดหัวกับการคำนวณตัวเลข CFU แต่ต้องการโพรไบโอติกที่มั่นใจได้ว่ามีชีวิตและทำงานได้จริง ทางเลือกที่ง่ายกว่าคือ CAVE PRO โพรไบโอติกสดแบบน้ำ
✨ จุดเด่นของ CAVE PRO
- รวมจุลินทรีย์มีชีวิตหลายสายพันธุ์ เช่น Lactobacillus plantarum, Bifidobacterium breve, Bacillus coagulans
- ผ่านกระบวนการบ่มสดแบบธรรมชาติ ไม่ผ่านความร้อน ทำให้จุลินทรีย์ยังคงมีชีวิต 100%
- ดูดซึมง่ายในรูปของเหลว ไม่ต้องรอให้จุลินทรีย์ฟื้นตัวเหมือนแบบผง
- รสชาติดี ดื่มง่าย เด็กและผู้ใหญ่ดื่มได้ทุกวัน
ไม่ต้องกังวลเรื่องการเก็บรักษาซับซ้อน
🎯 สรุปให้เข้าใจง่าย
จุดเปรียบเทียบ | คำแนะนำทั่วไป |
ปริมาณขั้นต่ำที่เห็นผล | ≥ 10⁹ CFU ต่อวัน |
ภาวะเฉพาะ / การรักษา | 10¹⁰ – 10¹¹ CFU ต่อวัน |
สิ่งที่ต้องระวัง | CFU ลดลงเมื่อเก็บไม่เหมาะสม |
ปัจจัยสำคัญที่สุด | สายพันธุ์ + ความมีชีวิตจริงของจุลินทรีย์ |
ทางเลือกสะดวก | โพรไบโอติกสดแบบน้ำ CAVE PRO |
💚 สรุปสุดท้าย
จำนวน CFU คือปัจจัยสำคัญในการเลือกโพรไบโอติก แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
คุณภาพของสายพันธุ์ รูปแบบผลิตภัณฑ์ และ “ความมีชีวิตจริง” ของจุลินทรีย์ คือสิ่งที่ทำให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุด
ดังนั้น ถ้าคุณอยากได้โพรไบโอติกที่ สด มีชีวิต พร้อมทำงานทันที โดยไม่ต้องคำนวณตัวเลข CFU ให้ยุ่งยาก
👉 CAVE PRO โพรไบโอติกสดแบบน้ำ คือคำตอบง่าย ๆ ที่ช่วยเติมเพื่อนตัวจิ๋วให้ลำไส้แข็งแรง และสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายพร้อมทุกวัน
เพราะ “คุณภาพและความสด” สำคัญไม่แพ้ “ตัวเลข CFU” 💚

อยากสุขภาพดี ทั้งร่างกายและจิตใจต้องเลือก CAVE’ PRO เพราะ
✅ มีโพรไบโอติกสด (Live Probiotics) ที่ยังมีชีวิตจริง
✅ รวมสายพันธุ์ดีมากถึง 10 ชนิด ช่วยบาลานซ์ลำไส้ได้ครบกว่า
✅ บ่มด้วยโกโก้แท้คุณภาพสูงจากไทย เป็นอาหารเลี้ยงจุลินทรีย์ชั้นดี
✅ ไม่มีน้ำตาล ไม่มีนม คนแพ้นมก็ทานได้สบาย
✨ ประโยชน์ที่คุณจะได้
- ระบบขับถ่ายดีขึ้น
- ภูมิคุ้มกันแข็งแรง
- พลังงานสดใสทั้งวัน
- ผิวพรรณเปล่งปลั่งจากภายใน
เพราะเมื่อ “ลำไส้แข็งแรง สุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจก็ดีขึ้น”
เลือก CAVE’ PRO ดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้

บดินทร์ เจริญพงศ์ชัย
CACAO STYLIST และ FOUNDER ของกลุ่ม Food Covery
ผู้ก่อตั้ง Yellow Chocolate
ผู้เขียนคอนเทนต์ บทความ และ เจ้าของเว็บไซต์ CAVE PRO
จากแรงบันดาลใจของคนที่ชอบทาน ช็อกโกแลต สู่ผู้ประกอบการธุรกิจเกี่ยวกับเมล็ดโกโก้ในไทย
ศึกษา และค้นหา เมล็ดโกโก้จากทั่วทุกมุมโลก เพื่อทำให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่พิเศษในการทาน Carft Chocolate